Amazon Basin The Lungs of the Earth

Travel Stories
3 ต.ค. 67
915
0

เมื่อพูดถึงแอมะซอน หลายคนนึกถึงการเที่ยวป่าแบบลึกลับ ตื่นเต้น ระทึกใจ เพื่อตามหาสัตว์ป่าหายาก ดุร้าย แต่ความจริงแล้ว แอมะซอนมีอะไรมากไปกว่านั้น และเรากำลังจะไปพิสูจน์กัน...

ประตูสู่การล่องเรือท่องลำน้ำแอมะซอน คือ Manaus เมืองหลวงของรัฐ Amazonas ที่นี่มีเรือหลากหลายรูปแบบให้เลือก ตั้งแต่เรือใหญ่แบบโรงแรมลอยน้ำได้ ล่องไปบนแม่น้ำที่กว้างใหญ่ราวท้องทะเล และเรือเล็กหลายๆ ลำพาเที่ยวไปตามคลองและลำน้ำสาขาต่างๆ ก่อนจะกลับมาพักบนเรือใหญ่ หรือจะเป็นเรือลำเล็กที่มีเปลแขวนเรียงรายให้นักท่องเที่ยวสายผจญภัยพักผ่อนในยามค่ำคืน ก็มีให้เลือกในหลายระดับราคา

ผมใช้เวลาเกือบ 2 สัปดาห์ในการล่องแอมะซอน และไปพักที่ Ariaú Amazon Towers โรงแรมแห่งแรกใจกลางผืนป่าแอมะซอนที่สร้างขึ้นจากไม้อยู่กลางน้ำในปี ค.ศ. 1986 เคยเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของการท่องเที่ยวแอมะซอนในช่วงทศวรรษ 1980 ปัจจุบันปิดให้บริการไปแล้ว เนื่องจากสภาพที่เสื่อมโทรมและขาดทุน

อย่างที่ทราบกันดีว่า แอมะซอนเป็นบ้านของสรรพสัตว์นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น Amazon River Dolphin หรือ Boto โลมาน้ำจืดที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำแอมะซอนและลำน้ำสาขาอย่าง Rio Negro, งูอนาคอนดา, จระเข้ไคแมนดำ, ตัวสลอธที่เคลื่อนไหวได้เชื่องช้า, นกแก้วมาคอว์, ปลาสายพันธุ์ต่างๆ รวมทั้งปิรันยา ซึ่งพบได้ทั่วไปและเป็นอาหารของชาวบ้านพื้นถิ่น แต่ถูกนำมาสร้างเรื่องให้ดุร้ายเกินจริง เนื่องจากปลาปิรันยาที่ดุร้ายนั้นส่วนใหญ่จะอยู่ในแหล่งน้ำปิดที่ไม่มีอาหาร

นอกจากการเฝ้าชมสรรพสัตว์แล้ว การท่องเที่ยวในลุ่มน้ำแอมะซอน คือการเข้าไปชมวิถีชีวิตของคนพื้นถิ่นที่อาศัยอยู่ในป่าลุ่มน้ำแห่งนี้ และเนื่องจากเป็นพื้นที่ราบลุ่มที่น้ำท่วมทุกปี ผู้คนส่วนใหญ่จึงอาศัยอยู่ตามแพริมน้ำ ที่ดูไปดูมาแล้วคล้ายกับบ้านเรือนในชนบทของไทย หรือว่าแพตามเขื่อนใหญ่ๆ ในประเทศไทย

ไฮไลต์ของการมาเที่ยวแอมะซอน คือการขึ้นเครื่องบินเล็กดูภาพมุมสูงของป่าแอมะซอน โดยเฉพาะบริเวณ Anavilhanas National Park ที่ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่ราว 400 เกาะ มีพื้นที่กว้างราว 20 กิโลเมตร ยาวกว่า 130 กิโลเมตร เป็นกลุ่มเกาะเรียงรายซับซ้อนราวกับเขาวงกตใจกลางแม่น้ำริโอเนโกรที่ดูสวยงามแปลกตา อีกอย่างที่เห็นได้ชัดจากทางอากาศ คือบริเวณที่แม่น้ำแอมะซอนซึ่งมีสีโคลน มาบรรจบกับแม่น้ำริโอเนโกรซึ่งมีสีดำ เกิดเป็นแนวยาวของแม่น้ำ 2 สีที่เรียกว่า Encontro das Águas

ทุกวันนี้ผืนป่าที่ได้ชื่อว่าเป็นปอดของโลกกำลังเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2007 ที่ทางการบราซิลตัดสินใจสร้างสะพานข้ามแม่น้ำริโอเนโกร หรือ Ponte Rio Negro สะพานแห่งแรกที่สร้างข้ามแม่น้ำในแอ่งที่ราบแอมะซอน ทำให้มีการขยายถนนเข้าไปในพื้นที่ที่เปราะบาง เราจึงได้เห็นการขยายตัวของเมืองรุกเข้าไปในพื้นที่ป่าที่นับวันจะลดน้อยลงไปเรื่อยๆ

ไม่มีใครรู้ว่าอนาคตของป่าฝนผืนใหญ่ที่สุดในโลกนี้จะเป็นอย่างไร หลายๆ คนเรียกสะพานแห่งนี้ว่า Bridge to nowhere เพราะไม่มีใครรู้ว่าสะพานแขวนที่ยาวมากกว่า 3.5 กิโลเมตรนี้ จะนำพาอนาคตของผืนป่าที่สำคัญที่สุดบนโลกใบนี้ไปสู่ที่ใด...

01

แอมะซอน คือพื้นที่ลุ่มน้ำที่เป็นป่าฝนผืนใหญ่ที่สุดในโลก ต้นกำเนิดของแม่น้ำอยู่บนเทือกเขาแอนดีสในเปรู และมีแม่น้ำสาขาน้อยใหญ่นับพันที่มารวมกันก่อนไหลลงทะเลที่บราซิล ลุ่มน้ำแอมะซอนกินอาณาเขตถึง 9 ประเทศ แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ของลุ่มน้ำอยู่ในบราซิล

นี่คือภาพถ่ายทางอากาศของ Anavilhanas National Park กลุ่มเกาะน้อยใหญ่ราว 400 เกาะ เรียงรายกันราวกับเขาวงกตใจกลางแม่น้ำสาขาอย่างริโอเนโกรที่ดูงดงามแปลกตา

02

Amazon River Dolphin หรือ Boto โลมาน้ำจืดที่มีสีชมพู อาศัยอยู่ในลุ่มน้ำแอมะซอน ทั้งในแม่น้ำแอมะซอนและแม่น้ำสาขาอย่างริโอเนโกร

03

ความกว้างของลำน้ำแอมะซอนในบริเวณเมือง Manaus นั้นกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาราวกับท้องทะเล เมื่อมองจากระเบียงห้องพักไปยังอีกฝั่งฟากของผืนป่า แทบจะไม่เห็นสิ่งปลูกสร้างอะไรท่ามกลางผืนป่าที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้เลย

04

สลอธ (Sloth) สัตว์ที่ได้ชื่อว่าเคลื่อนไหวร่างกายได้เชื่องช้าที่สุดในโลก โดยปกติสลอธจะเคลื่อนที่ราว 15-30 เซนติเมตรต่อนาที และส่วนใหญ่อาศัยอยู่บนต้นไม้

05

เมือง Manaus เมืองหลวงของรัฐ Amazonas ในบราซิล ประตูสู่การล่องเรือเที่ยวลุ่มน้ำแอมะซอน เป็นเมืองใหญ่ที่สุดที่ตั้งอยู่ใจกลางผืนป่าแอมะซอน ในภาพจะเห็นเรือครูซหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่เรือหรูหราที่มีห้องพักส่วนตัวเหมือนโรงแรมลอยน้ำ ไปจนถึงเรือลำไม่ใหญ่นักที่มีเปลแขวนเรียงรายอยู่ให้เป็นที่พักผ่อนในยามค่ำคืน

การเดินทางไปเมือง Manaus ทำได้หลายเส้นทาง แต่ที่สะดวกที่สุดคือ เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปต่อเครื่องที่ตะวันออกกลาง ไม่ว่าจะที่ Doha หรือ Dubai เพื่อบินตรงไปยังเมืองใหญ่ของบราซิล ไม่ว่าจะเป็น São Paulo หรือ Rio de Janeiro ก่อนที่จะต่อเครื่องไปยังเมือง Manaus

06

Amazon Theatre หรือ Teatro Amazonas โอเปราเฮาส์ในเมือง Manaus ที่ตั้งอยู่ใจกลางป่าแอมะซอน สร้างขึ้นใน ค.ศ. 1884 เปิดการแสดงครั้งแรกใน ค.ศ. 1896 จุผู้ชมได้ถึง 700 ที่นั่ง เป็นโรงมหรสพที่ก่อสร้างขึ้นในยุคสมัยที่ชาวยุโรปเริ่มเข้ามาตั้งถิ่นฐานทำสวนยางพาราในบริเวณลุ่มน้ำแอมะซอน

07

เด็กชาวบ้านกับสลอธ สัตว์เลี้ยงของเธอที่อุ้มมาให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพในบริเวณหน้าบ้านพักของเธอซึ่งเป็นแพกลางน้ำ เนื่องจากน้ำในแม่น้ำแอมะซอนมีความเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล ผู้คนส่วนใหญ่จึงอาศัยอยู่ในบ้านเรือนแพ คล้ายๆ กับที่ราบลุ่มในภาคกลางของประเทศไทย

08

Wattled Jacana หรือ Jesus Bird ขณะก้าวเดินไปบนใบบัวและจอกแหน เป็นนกในกลุ่มเดียวกับนกพริกหรือ Bronze-winged Jacana ที่พบเห็นได้บ่อยๆ ในบ้านเรา

09

ปลาในกลุ่มปิรันยา (Piranha) เป็นอาหารหลักของชาวบ้านในลุ่มน้ำแอมะซอน รวมไปถึงปลาปิรันยาแดง ที่มีฟันแหลมคมและได้ชื่อว่าดุร้ายที่สุด

10

นกแก้วมาคอว์แดง (Scarlet Macaw) พบเห็นได้ทั่วไปในลุ่มน้ำแอมะซอน แม้ว่าเราอาจจะพบเห็นนกแก้วชนิดนี้บ่อยครั้งในสวนสัตว์ แต่การได้พบเห็นมันอาศัยอยู่ในธรรมชาตินั้นก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป

11

ชาวประมงกับปลาที่จับได้จากการวางตาข่ายในลุ่มน้ำแอมะซอน ปลาในลุ่มน้ำแอมะซอนนั้นจัดได้ว่ามีความหลากหลายของสายพันธุ์ปลาน้ำจืดมากที่สุดในโลก ประมาณกันว่ามีไม่น้อยกว่า 3,000 ชนิด

12

กลุ่มอาคารที่พักของ Ariaú Amazon Towers เคยเป็นสัญลักษณ์ของการท่องเที่ยวที่โดดเด่นที่สุด ตัวอาคารสร้างขึ้นจากไม้ในปี ค.ศ. 1986 เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางป่าแอมะซอน ห่างจากเมือง Manaus 35 ไมล์ ปัจจุบันปิดให้บริการไปแล้ว

13

ลุ่มน้ำแอมะซอนเป็นป่าฝนผืนใหญ่ที่สุดในโลก และได้ชื่อว่าเป็นปอดที่สร้างอากาศบริสุทธิ์ให้กับชั้นบรรยากาศของโลก แต่ทุกวันนี้ป่าในลุ่มน้ำแอมะซอนต้องเผชิญกับความท้าทายในหลายๆ เรื่อง ทั้งการขยายตัวของเมือง การตัดถนน และกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ที่ค่อยๆ รุกล้ำเข้าไปในผืนป่า

14

สะพานข้ามแม่น้ำริโอเนโกร หรือ Ponte Rio Negro สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 2007 เป็นครั้งแรกที่มีสะพานขนาดใหญ่จากเมือง Manaus ตัดข้ามแม่น้ำเข้าไปในผืนป่าแอมะซอน ทำให้หลายฝ่ายเป็นห่วงถึงการขยายตัวของเมืองใหญ่และการรุกล้ำเข้าไปในผืนป่าที่สำคัญแห่งนี้

15

บรรยากาศของห้องรับประทานอาหารบนดาดฟ้าเรือโรงแรมที่เราใช้ล่องลำน้ำแอมะซอน

16

แพปั๊มน้ำมันลอยน้ำขนาดใหญ่ใจกลางผืนป่าแอมะซอน

17

จระเข้ไคแมนดำ (Black Caiman) พบได้ทั่วไปในแอ่งที่ราบลุ่มน้ำแอมะซอน เมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดลำตัวยาว 5-6 เมตร และเป็นนักล่าที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารในลุ่มน้ำแอมะซอน

18

Encontro das Águas หรือลำน้ำ 2 สีที่มาบรรจบกัน ระหว่างแม่น้ำแอมะซอนที่มีสีโคลนกับแม่น้ำริโอเนโกรที่มีสีดำ ในบริเวณใกล้เมือง Manaus

 

เรื่องและภาพ : นัท สุมนเตมีย์