10 สถานที่เที่ยวเนเธอร์แลนด์ ดินแดนแห่งความสดใสและโรแมนติก

ปลายปีประเทศไทยก็เข้าสู่ช่วงหน้าหนาวแล้วทำให้คนส่วนใหญ่อยากไปเที่ยวประเทศที่มีอากาศหนาวเย็นธรรมชาติสวยงามเพื่อเยี่ยวยาจิตใจหลังจากที่อยู่บ้านมานานนับปี โดยรีวิวนี้จะพาทุกท่านไปเที่ยวประเทศเนเธอร์แลนด์ ประเทศที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในยุโรปตะวันตก ประเทศที่มีอากาศเย็นสบายไม่หนาวเกินไป ซึ่งครั้งนี้จะพาทุกท่านไปดูสถานที่น่าสนใจของเนเธอร์แลนด์ที่เต็มไปด้วยสีสันสดใส ความน่ารักของวัฒนธรรมและผู้คนกัน

1.อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam)

เมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีคลองมากกว่า 165 แห่ง จนได้รับขึ้นเป็นมรดกโลก โดย UNESCO อัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองที่น่ารักสวยงามเป็นที่ตั้งของสถาปัตยกรรมและพิพิธภัณฑ์อันทรงคุณค่า เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่น่าสนใจของผู้คนซึ่งอาศัยอยู่ในประเทศแห่งกังหันลม รองเท้าไม้และทุ่งดอกทิวลิป โดยระบบขนส่งสาธารณะที่ประเทศนี้ถูกวางผังมาให้ใช้งานได้ง่ายมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี ซึ่งในเมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมายให้คุณได้ไปเยี่ยมชมกัน

2.โบสถ์เซนต์นิโคลัส (Basilica of St Nicholas)

เป็นโบสถ์นิกายโรมันคาทอลิกมีสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่งดงาม ความโดดเด่นของโบสถ์นี้คือ หอคอยแปดเหลี่ยมขนาดใหญ่ หน้าต่างประดับกระจกหลากสี ยอดโดมและโคมไฟสไตล์บาโรก เป็นจุดแลนด์มาร์คสำคัญจุดหนึ่งของเมือง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมมากที่สุดจุดหนึ่ง

• ข้อมูลการเดินทาง: สามารถเดินจากจากสถานี Amsterdam Central ไปได้ ระยะทางราวๆ 350 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 4 นาที
• เวลาเปิด-ปิด: เปิดให้เข้าชมทุกวัน แต่เวลาต่างกัน
  วันจันทร์ 12.00 – 16.00 น.
  วันอังคาร-ศุกร์ 11.00 – 16.00 น.
  วันเสาร์ 12.00 – 15.00 น.
  วันอาทิตย์ 9.45 – 14.00 น.

3.ร่องเรือเที่ยวรอบคลองในอัมสเตอร์ดัม

หากคุณอยากลองเปลี่ยนวิธีการชมเมืองลองเลือกวิธีการล่องเรือเที่ยวรอบคลองในอัมสเตอร์ดัมดูสักครั้ง ซึ่งกิจกรรมนี้ได้รับความนิยมมากในหมู่นักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสกับความสวยงามตึกอาคารบ้านช่อง โบสถ์ สถานที่สำคัญๆ ที่ตั้งอยู่ตามคลองผ่านคูคลองกว่า 165 สาย และเพลิดเพลินกับร้านค่าต่างๆ เรียนรู้เกี่ยวกับยุคทองของสถาปัตยกรรมชาวดัชต์ที่ได้รับให้เป็นมรดกโลกจากองค์การ UNESCO

• ข้อมูลการเดินทาง: รถไฟ จากสถานที่ Amsterdam Central ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย 52 Station Zuid ไปลงป้าย Vijzelgracht
• เวลาเปิด-ปิด: มีตั้งแต่ทัวร์แบบ 1 ชั่วโมง ช่วงกลางวันหรือเย็น หรือจะเป็นการล่องเรือแบบดินเนอร์ในช่วงค่ำก็มีให้บริการเช่นกัน

4.ดามสแควร์ หรือจตุรัสดาม (Dam Square)

เป็นสัญลักษณ์ของอัมสเตอร์ดัม เป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์แห่งชาติเพื่อเป็นการระลึกถึงผู้ที่ตกเป็นเหยื่อในสงครามโลกครั้งที่ 2 สถานที่แห่งนี้รายล้อมไปด้วยอาคารเก่าแก่ เป็นศูนย์รวมห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ รวมทั้งยังเป็นจุดรวมตัวประท้วงต่างๆ

• ข้อมูลการเดินทาง: จากสถานี Amsterdam Central Station สามารถเดินไปยัง Dam Square ได้ โดยเดินไปตามถนน Singel ใช้เวลาเดินประมาณ 8 นาที

5.ไลเด้น (Leiden)

เมืองเล็ก ๆ ที่ได้รับกล่าวขานว่าเป็นเมืองแห่งกุญแจ (City of Keys) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการปกป้องเมือง ตั้งอยู่ในจังหวัดเซาท์ฮอลแลนด์ ไลเด้นมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง (Leiden University) ตั้งแต่ปี 1575 และยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องของศิลปะอีกด้วย โดยมีจิตกรที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของโลกอาศัยอยู่ที่เมืองนี้ชื่อว่า แร็มบรันต์ (Rembrandt) นอกจากนี้ หากแวะมาเที่ยวที่เมืองไลเด้นอย่าลืมแวะไปชมโครงกระดูกของทีแร็กซ์ (Trix) อายุกว่า 67 ล้านปี ที่รับรองได้ว่าตื่นตาตื่นใจสุด ๆ ไปเลยทีเดียวที่พิพิธภัณฑ์ความหลากหลายทางชีวภาพ (Naturalis Biodiversity Center)

6.กรุงเฮก (The Hague)

อยู่ทางตะวันตกของประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นเมืองหลวงของจังหวัดเซาท์ฮอลแลนด์ กรุงเฮกเป็นเมืองรวมสถานที่ทางราชการของรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ เป็นที่ตั้งของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ และเป็นเมืองที่มีคนเอเชียอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากจนทำให้มีย่านไชน่าทาวร์ซึ่งมีอาหารเอเชียให้คุณได้เดินเลือกชิมได้ไม่มีเบื่อ และที่เมืองนี้เป็นอีกเมืองที่หากคุณอยากเรียนรู้ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมของชาวดัชต์คุณไม่ควรพลาดที่จะมาเยี่ยมชมเมืองนี้สักครั้ง

7.รอตเตอร์ดัม (Rotterdam)

เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ เป็นเมืองท่าใหญ่ที่สุดในยุโรป และมีศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการขนส่งที่สำคัญ รอตเตอร์ดัมมีความเป็นเอกลักษณ์ด้วยรูปทรงของสถาปัตยกรรมใหม่ดูแปลกตา มีตึกสูงจำนวนมาก รวมไปถึงสะพานขนาดใหญ่ Eramusbrug ที่กลายมาเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมือง ทำให้ใจกลางเมืองมีความคึกคักน่าสนใจมากขึ้น และนอกจากนี้ยังมี สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีก เช่น ตลาดในร่มแห่งแรกของเนเธอร์แลนด์ (Makthai) บ้านลูกบาศก์ (Cube House) อาคารกระจกเงาสะท้อน (Depot boijmans van beuningen)

8.ไนเมเคิน (Nijmegen)

เมืองเก่าแก่ที่สุดในประเทศเนเธอร์แลนด์ มีศูนย์กลางประวัติศาสตร์ให้คุณได้ไปค้นหาที่ไม่เหมือนใคร มีอายุยาวนานมากถึง 2,000 ปี ตั้งแต่ก่อนคริสตกาลของจักรวรรดิโรมัน ซึ่งเมืองตั้งอยู่ใกล้กับชายแดนประเทศเยอรมัน ห่างจากเมืองหลวง 120 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางทางโดยรถไฟประมาณ 1 ชั่วโมง ไฮไลต์ของเมืองนี้คือพิพิธภัณฑ์ที่นำเสนอมรดกทางวัฒนธรรมายาวนานถึง 2,000 ปี

9.อูเทร็คท์ (Utrecht)

เมืองของตัวการ์ตูนเจ้ากระต่ายสีขาวหูยาวพร้อมเสื้อสีส้ม หรือเจ้ามิฟฟี่ (Nijntje) นั้นเอง เจ้าตัวนี้เป็นกระต่ายเพศหญิงสีสันน่ารักสดใสซึ่งกลายเป็นที่ชื่นชอบของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ไปทั่วโลก เมืองนี้ยังเป็นเมืองแห่งสีสันที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงอัมสเตอร์ดัม โดยนอกจากเจ้ากระตุ๊กตากระต่ายสีขาวแล้วยังมีหอคอย Dom Tower สูงที่สุดในประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งในบริเวณใกล้หอคอยมีมหาวิทยาลัยเก่าแก่สร้างขึ้นรอบโดม รวมถึงท่าเทียบเรือและห้องใต้ดินที่เป็นเอกลักษณ์ของเมือง มีร้านอาหารบริเวณริมคลองให้นั่งเล่นหรือเดินเพลิดเพลินในบรรยากาศสบายๆ นอกจากนี้ มีปราสาท De Haar Castle ปราสาทใหญ่โตหรูหราที่สุดในเนเธอร์แลนด์ให้คุณได้เข้าไปเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมภายในปราสาทตกแต่งด้วยไม้แกะสลักประดับอย่างวิจิตร ชวนให้นึกถึงการตกแต่งภายในของโบสถ์นิกายโรมัน คาทอลิกสวยจนเหมือนภาพวาดในเทพนิยาย

10.อัลค์มาร์ (Alkmaar)

หรือเรียกว่าเมืองชีส ที่ถูกเรียกว่าเมืองชีสเพราะว่ามีชื่อเสียงเกี่ยวกับตลาดชีส ซึ่งจะมีการจัดแสดงและจำหน่ายชีสทุกเช้าวันศุกร์ ระหว่างเดือนเมษายนถึงกันยายน นอกจากชื่อเสียงด้านชีสแล้วอัลค์มาร์เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน มีอนุสรณ์สถานณ์แห่งชาติที่ได้รับการจดทะเบียนมากกว่า 399 แห่ง เรียกได้ว่าอาคารส่วนใหญ่ที่เราเดินผ่านมีอายุรวมเกือบร้อยปี และหากคุณไปเมืองนี้ต้องไม่พลาดไปเดินบนถนนที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองอัลค์มาร์ ชื่อว่า Langestraat และเป็นทั้งที่ตั้งของศาลากลางเมือง รวมไปถึงร้านค้าจำนวนมากที่มีความยาวกว่าครึ่งกิโลเมตร และคุณจะได้เห็นบ้านที่ออกแบบหน้าจั่วลักษณะพิเศษที่ถนนเส้นนี้ หากอยากมาเดินเล่นเพลิดเพลินไปกับความสวยงามของอาคาร เก็บภาพสวยๆ อาหารอร่อยๆ คุณต้องไม่พลาดมาเดินถนนเส้นนี้

หวังว่าจะได้เป็นไอเดียให้กับทุกท่านที่มองหาสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงรวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายลงบ้างแล้ว ขอให้ทุกคนได้กลับไปใช้ชีวิตดื่มด่ำกับความงามของประเทศแต่ละประเทศกันเหมือนเดิม แต่ต้องอย่าลืมใส่หน้ากากอนามัยและพกเจลแอลกอฮอล์ไปด้วยทุกที่เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและคนรอบข้าง